ตลอดปี 2566 นอกจากการเติบโตของหลายๆ วงการเพลงแล้ว ยังมีหนึ่งเทรนด์ที่น่าสนใจของวงการเพลงไทยที่หลายคนอาจไม่ได้สังเกตกัน ก็คือการเปลี่ยนแปลงของศิลปินดูโอ้ในวงการเพลงไทย เพราะในปี 2566 ก็มีวงที่เรารู้จักกันดีที่พักงานรูปแบบดูโอ้อย่างไม่มีกำหนด และขณะเดียวกันเราก็ได้ต้อนรับการกลับมาของหลายๆ วงดูโอ้ และมีหลายวงที่เกิดใหม่ในช่วงนี้และผลงานน่าสนใจ เรียกได้ว่าเป็นปี “มีพบมีจาก” แบบร้อนแรงสุดๆ ของวงการดูโอ้
โดยหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงของศิลปินดูโอ้ไทย ก็คือการพักแบบไม่มีกำหนดของ “นิว-จิ๋ว” ที่ปัจจุบัน นิว นภัสสร พักบทบาทศิลปินและทำหน้าที่คุณแม่หลังงาน GRAMMY RS CONCERTS HIT100 ซึ่งน่าจะถือเป็นเรื่องน่าเสียดายและใจหายของหลายๆ คน เพราะทั้งสองมีผลงานออกมาต่อเนื่องตลอด 10 ปี และมีอัลบั้มให้ฟังต่อเนื่อง แถมเพิ่งเริ่มทำงานในฐานะน้องใหม่หน้าคุ้นของค่าย White Music แถมเพิ่งมีเพลงดังเพลงล่าสุดอย่าง “จมน้ำตา” จนตัวเราเองก็ลุ้นว่าสาวๆ จะมากับทิศทางอะไรอีกในอนาคต แต่อีกใจก็เชื่อว่าอีกไม่นานพวกเธอน่าจะมีอะไรกลับมาเซอร์ไพรส์แฟนๆ และเชื่อว่าตัวของ จิ๋ว ปิยนุช จะมากับผลงานโซโล่ที่ไม่ธรรมดา
และอีกหนึ่งวงดูโอ้ที่ทำเอาหลายคนใจหายเมื่อปลายปี 2565 และทำให้เราโคตรคิดถึงสุดๆ ในปี 2566 ก็คือ “โฟร์-มด” ที่ มด ณปภัช ได้ประกาศอำลาวงการบันเทิง กลางงาน KamiKaze Party 2022 เพื่อย้ายไปอยู่ต่างประเทศ จนตัวของ โฟร์ ศกลรัตน์ ได้ขึ้นคอนเสิร์ต GRAMMY X RS : 2K Celebration Concert และ Kamikaze Party Reunion 2023 แต่แม้ว่าจะมาฉายเดี่ยว โฟร์ก็ยังคงเป็นตัวละครสำคัญที่สร้างสีสันให้กับทั้งสองงาน จนหลายคนอยากให้เธอใจอ่อนทำเพลงใหม่สักครั้งเช่นกัน และอีกใจก็หวังให้มดกลับมาขึ้นเวที เพราะที่ผ่านมาก็มีหลายๆ ศิลปินที่ไปอยู่ต่างประเทศนาน แต่กลับมาเซอร์ไพรส์แฟนๆ ทั้ง เจนนี่-เจนนิเฟอร์ ที่ทำเอาคนดูงาน GRAMMY X RS เสียน้ำตา รวมถึง แก้ว จรีนา ที่แม้อยู่ต่างแดน แต่ความพร้อมในการรวมกับ พิม พิมพ์มาดา และ น้ำหวาน พิมรา เป็นวง ZAZA นั้นพร้อมเสมอ จนเรารู้สึกเลยว่าสำหรับแก้วนั้น เมืองไทยนั้นไม่ต่างจากปากซอย
แต่ในการแยกกันแบบไม่มีกำหนดของวงดูโอ้ ก็ยังมีวงที่กลับมาเจอกัน อย่างเช่น กอล์ฟ พิชญะ และ ไมค์ พิรัชต์ ที่พา “กอล์ฟ-ไมค์” กลับมายืนบนเวทีอิมแพ็ค อารีน่า สมการรอคอยของแฟนๆ ที่รอคอนเสิร์ตทั้งสองมานับ 10 ปี และพวกเขายังได้ทำการซ้อนเซอร์ไพรส์เต็มๆ ด้วยการ พา “แซนด์-แบงค์” พี่ชายแท้ๆ ที่เป็นศิลปินค่าย RS มาขึ้นเวที GOLF MIKE : Bounce To The Future Concert อีกด้วย และแซนด์-แบงค์ ก็เป็นเซอร์ไพรส์ของงาน GRAMMY X RS : 2K Celebration Concert ที่หลายคนคาดไม่ถึงอีกด้วย เรียกได้ว่าคัมแบ็คทีเดียว ได้ 2 เบอร์แบบเต็มคาราเบล!
ขณะเดียวแฟนๆ ก็ยังได้เห็นหลายๆ วงที่คัมแบ็กบนเวทีคอนเสิร์ต ไม่ว่าจะเป็นแฝด “Neko Jump” กับเพื่อนคู่ซี้อย่าง “China Dolls” ที่นานๆ จะขึ้นโชว์ให้หลายคนได้เห็นบนเวที GRAMMY X RS : 2K Celebration ส่วน “ลิฟท์-ออย” กับ “แร็ปเตอร์” ก็ทำเอาคนลุกขึ้นเต้นกันทั้งงาน Grammy RS Concerts : 90’s Versary กับ RS HITS JOURNEY CONCERT 2023 แถมยังมีงานให้ติดตามแบบรัวๆ สำหรับใครที่มูฟออนความคิดถึงไม่ได้ ขณะที่ตัวแทนฝั่งโดโจซิตี้ “Triumphs Kingdom” ก็เป็นอีกชื่อที่อยู่ในหลายงานเฟสติวัลไทย และเพลงของพวกเธออย่าง “ผ้าเช็ดหน้า” ก็ยังคงเป็นเพลงฮิตที่ทำกระดาษทิชชู่เกลื่อนแทบทุกร้านเหล้าในประเทศไทย
ตัดภาพมาที่ “แดน-บีม” ก็เป็นอีกคู่พี่น้องต่างบ้าน ที่แอคทีฟสุดๆ เพราะมาแจมกับทั้งเวที GRAMMY X RS และพาบิ๊กขึ้นมาอยู่บนเวทีอิมแพ็ค อารีน่า 2 รอบในงาน D2B ETERNITY CONCERT 22 ปีนับตั้งแต่วันที่ฉันรักเธอ และนอกจากทั้งสองแล้ว ตัวพ่อตลอดกาลอย่าง “อัสนี-วสันต์” ก็ได้ทำให้เด็กรุ่นใหม่หลายคนตกใจไปตามๆ กัน เพราะ คอนเสิร์ต 37 ปี อัสนีและวสันต์ ของพวกเขาขายบัตรหมดเร็ว ชนิดที่ว่าวัยรุ่นหลายคนที่ช่วยกดบัตรให้คนในครอบครัว หรือกดบัตรไปดูเองก็ยังต้องตกใจกับความไวราวกับปีศาจของคนที่รอคอนเสิร์ตนี้!
พูดถึงศิลปินรุ่นพี่กันไปแล้ว ทางฝั่งของเบอร์รุ่นน้องไฟแรงปีนี้ก็ไม่น้อยหน้าเลย เพราะถ้าสังเกตชื่อของศิลปินที่เป็นดาวรุ่งพุ่งแรงของปีนี้ ส่วนใหญ่ล้วนเป็นวงดูโอ้เกือบหมด ไม่ว่าจะเป็น “fellow fellow” ที่สร้างปรากฎการณ์ “ดาวหางฮัลเลย์” ทั่วประเทศ และทำเอารุ่นพี่ที่ดูแลพวกเขาอย่าง “LIPTA” อดยิ้มไปด้วยไปไม่ได้ ขณะที่ “เรนิษรา” ก็เขย่าวงการด้วยเพลงฮิตร้อยล้านวิวอย่าง “ผู้ถูกเลือกให้ผิดหวัง(ดอกไม้ฤดูหนาว)” และเพลงที่หลายคนรู้จักเป็นอย่างดีอย่าง “ฉันคือนักสะสมความเศร้า” และ “ร้องไห้จนเบลอและเผลอลืมตัวเอง” จนพวกเขาทั้งทุบสถิติยอดวิว และยังติดยอดท็อปสตรีมทั้ง Spotify กับ Apple Music
ส่วนเพลง 10 ล้านวิวของปีนี้ ก็มีหลายผลงานที่เด่น ทั้ง “SHERRY” เจ้าของเพลง 20 ล้านวิวเมื่อต้นปี อย่าง “เธอไม่ได้สอนให้ฉันอยู่คนเดียว” ก็มีเพลงให้ฟังอย่างต่อเนื่อง ขณะที่วงที่ชอบคัฟเวอร์เพลงฮิตตัวเอง 40 เวอร์ชั่นอย่าง “ONEONE” ก็ได้ฤกษ์ทำคลิปใหม่ที่หลายคน เนื่องในโอกาสที่เพลง “ฉันจะมีความสุขให้มากกว่าเธอ” แมสจนฉุดไม่อยู่ และตอนท้ายปี “Mirr” ก็เซอร์ไพรส์ส่งท้ายปีอย่าง “กำแพงหัวใจ” ที่กำลังออกอาละวาดกระชากใจคนแอบรัก แถมไต่ชาร์ตคลื่นวิทยุได้น่ากลัวจนเราเชื่อว่าถ้าปล่อยเร็วกว่านี้ พนันได้น่าจะสร้างสถิติชวนอึ้งในปีนี้แน่ๆ
สิ่งที่น่าทึ่งสุดๆ อีกมุมคือในกลุ่มคนฟังเพลงสากล ก็มีวง “HYBS” จากบ้าน Juicey ในเครือ LOVEiS ที่ยอดสตรีมเพลง “Dancing With My Phone”, “Ride”, “Go Higher” และ “Killer” พุ่งสุดๆ มาจนถึง “Tip Toe” ที่ทะลุ 10 ล้านวิว และปีนี้ HYBS ก็ได้ร่วมงานกับ 88Rising ในเพลง “Slow” อีกด้วย ซึ่งเรามองว่าเป็นโอกาสที่ดีสุดๆ ในการที่ชาวต่างชาติจะค้นพบพวกเขา และนอกจาก HYBS แล้ว ค่ายในเครือ LOVEiS อย่าง LIT Entertainment แฝดสุดน่ารักอย่าง “DIDI x DADA” ก็ได้ทำให้ทุกคนพบกับ “จังหวะตกหลุมรัก” ของตัวเอง และเดือนตุลาคมที่ผ่านมาได้ขึ้นบิลบอร์ด ไทม์สแควร์ กับแคมเปญ Spotify EQUAL จนเราคิดว่าทีมงานค่าย รวมถึงพ่อจี๊ป เทพอาจ แห่งบ้าน LOVEiS ต้องภูมิใจในลูกๆ คู่นี้แน่นอน
และในกรุงเทพเมืองคอนเสิร์ต ปีนี้ วงดูโอ้หลายวงที่แจ้งเกิดช่วงไล่เลี่ยกับโควิด-19 ได้มากับคอนเสิร์ตใหญ่ที่แฟนๆ รอคอย ไม่ว่าจะเป็น “SERIOUS BACON” ที่พางาน SERIOUS BACON โคตรซีเรียส !! CONCERT SOLD OUT จนหลายคนกดบัตรไม่ทัน ส่วน “DEPT” ที่มีคิวงานแน่นสุดๆ ก็ได้ฤกษ์จัด DEPT SHOUT OUT TO THE WORLD CONCERT พร้อมมีอัลบั้ม 2 Hey Mom, Did You See Me In The Newspaper? ให้แฟนๆ ที่รักพวกเขา ขณะที่ “ROOFTOP” จากบ้าน Spicydisc ที่มีเพลงเปลี่ยนชีวิตวงอย่าง “คนเราจะแอบรักใครสักคนได้นานแค่ไหน” ในปี 2563 ก็ประเดิมปี 2566 ไปกับงาน ROOFTOP How Long และปิดอัลบั้มชุด HOW LONG ที่รอคอยมา 10 ปี นับตั้งแต่ฟอร์มวง ซึ่งแสดงถึงความใจรักที่ควบคู่กับความสามารถของ บี๊บ-โก้ 2 เพื่อนรักที่ไม่เคยยอมแพ้กับสิ่งที่รัก
พอพูดถึงศิลปินที่ประสบความสำเร็จไปแล้ว เราก็ขอใช้พื้นที่นี้ ในการแนะนำหลายดูโอ้น้องใหม่ที่เพิ่งเดบิวต์ แต่ฝีมือน่าจับตามาก เริ่มจากฝั่งทีป็อปที่นอกจากฝีมือการร้องเต้นแล้ว ยังแต่งเพลงกันเองได้ด้วยเช่น “ไธโอ-ติวเตอร์ (THI-O & TUTOR)” ที่เพิ่งพาเพลง “CALL CENTER” 3 ทะลุล้านวิว สมศักดิ์ศรีผู้ชนะรายการ The Two ที่กวาดคะแนนโหวตแบบโหดสุดๆ ด้าน 2 หนุ่ม “FIRZTER” สังกัดค่าย White Music ที่ได้เดบิวต์หลังเป็นเด็กฝึกในวงการ T-POP หลายปี ก็พาเพลง “ดวงจันทร์”, “เพื่อนคนเดิม” และ “รอ” ที่พวกเขาแต่งเองได้ทะลุล้านวิวในปีนี้อย่างพร้อมเพรียง และอีก 2 สาวที่เราไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ “จัสมิน-นิก้า (JustmineNika)” ที่ได้เดบิวต์สมการรอคอย หลังทำให้ทุกๆ คนรู้จักพวกเธอในรายการ 4EVE Girl Group Star ที่หาเมมเบอร์วง 4EVE โดยตอนต้นปีสองสาวได้มากับเพลง “Just Kid(ding) (รู้ว่าเด็ก)” ที่ทั้งสองแต่งเองและนำให้ผู้บริหารดู จนผ่านและกลายเป็นซิงเกิล 2 จนเรามองว่าทั้ง 3 ศิลปินเป็นตัวอย่างที่ดีเลยว่าเด็ก T-POP ยุคนี้เขาเก่งกันจริง!
อีกด้านหนึ่งที่ไม่พูดไม่ได้เลย ก็คือกลุ่มศิลปินอินดี้ เพราะหลายๆ คนที่มาในช่วงปีสองปีนี้ มีลายเซ็นดนตรีที่น่าสนใจอย่าง “Purplecat” จาก Spicydisc ที่มีการผสมผสานแนวดนตรีจนเกิดเคมีเท่ๆ ที่ติดหู มาจนถึง 2 หนุ่ม “20Hz” จาก GeneLab ที่นอกจากดนตรีน่าสนใจแล้ว พวกเขายังฉีกขนบการทำเพลงไทยที่มักมีแต่เพลงอกหัก ด้วยการทำเพลงสนุกๆ ไปเลย จนแม้แต่เพลงที่ว่าเศร้าสุดของพวกเขาอย่าง “ปาร์ตี้น้ำตา” ก็ยังมีมุมที่ซ่อนความอารมณ์ดี ส่วนทางฝั่ง genie records เราก็อยากให้ทุกคนได้รู้จักกับ “Topeople” วงดนตรีที่ไม่มีกรอบ แต่มีบรรยากาศและภาษาทางดนตรีของตัวเอง และได้นำฝีมือการทำโปรดักชั่นเฮาส์ตั้งแต่อายุ 17 มาใช้กับเอ็มวีและอาร์ตเวิร์ค แถมยังมีแนวคิดไม่เหมือนใครอย่างความตั้งใจที่จะ “ไม่คัฟเวอร์เพลงของใคร” และจะตั้งใจทำผลงานออกมาให้ดีที่สุด
นอกจากวงดูโอ้ที่ร้อนแรงสุดๆ ในปีนี้แล้ว เรามองว่าในปี 2567 ที่กำลังจะมาถึงนอกจากชื่อที่กล่าวมา ก็ยังมีวงที่น่าจับตาและกำลังจะมีอัลบั้มใหม่อย่างเช่น “Paper Planes” ที่ตั้งใจสุดๆ กับอัลบั้มต่อไปหลังปรากฎการณ์ “ทรงอย่างแบด” คู่หูคนทำเพลงอย่าง “LUSS” ก็ได้เผยว่าอัลบั้มใหม่ในปีหน้าจะเป็นอะไรที่คาดเดาไม่ได้ หลังเปิดด้วยเพลง “ไข่พะโล้” และทางฝั่ง What The Duck ก็มี “Whal & Dolph”, “Landokmai” กับ “mints” ที่แม้ปีที่ผ่านมาจะไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรหวือหวานัก แต่ก็เป็นเสือของวงการเพลงที่มองข้ามไม่ได้เลย!
ปี 2566 ถือเป็นปีที่ศิลปิน “ดูโอ้” ในวงการเพลงไทยมีการขยับขยายและเปลี่ยนแปลงเยอะมาก และนั่นทำให้วงการเพลงไทยคึกครื้นสุดๆ ใครที่ชอบวงไหน หรือคิดว่าวงไหนจะมาแน่ในปี 2567 มาคอมเมนต์คุยกันหรือแนะนำได้เลย
#Songtopia