บิลลี่ โอแกน ศิลปิน Rock มาดเข้ม ที่โลดแล่นอยู่บนเส้นทางดนตรีมายาวนานเกือบ 40 ปี ผู้ซึ่งทำมาครบแล้วในทุกบทบาทบนเส้นทางสายบันเทิง ตั้งแต่การเป็นนักแสดง นายแบบ พิธีกร สู่เส้นทางนักร้องที่มีผลงานดังทะลุล้านตลับ และมีเพลงฮิตติดหูมากมายจนถึงปัจจุบัน
ซึ่งก่อนจะมาเป็นบิลลี่เข้มในทุกวันนี้ ต้องย้อนวันวานกลับไปในช่วงยุค 90 วัยรุ่นยุคนั้นคงจะจำภาพบิลลี่ตอนเป็นนายแบบที่มีหน้าตาหล่อเหลา ใสกิ๊ง ยิ้มหวาน หรือจะเป็นบทบาทนักแสดงก็ดังมาก ๆ เช่นกัน ซึ่งในสมัยนั้นการจะเข้ามาเป็นนักร้องได้ จะต้องผ่านบทบาทการทำงานในด้านอื่น ๆ มาก่อน ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายหนัง ถ่ายละคร ถ่ายแบบ จนกว่าจะเข้าตาผู้ใหญ่ ถึงจะได้มาร้องเพลงและออกอัลบั้มชุดต่าง ๆ ได้
โดยก่อนหน้านั้นพี่บิลลี่เคยได้มีโอกาสเป็นพิธีกรในสังกัดของค่ายเพลงยักษ์ใหญ่อย่าง Grammy มาก่อน และหลังจากนั้นก็เริ่มมีผลงานเพลงชุดแรกกับค่าย Grammy ในปี พ.ศ. 2530 ภายใต้ชื่ออัลบั้มว่า “บิลลี่! บิลลี่!” ซึ่งหลังจากที่ปล่อยอัลบั้มชุดแรกออกมา ก็ได้รับความนิยมจากแฟน ๆ ไม่น้อย ทำให้ในชุดแรกนี้มีเพลงดังมากมายไม่ว่าจะเป็นเพลง “วันนั้น..วันนี้..วันไหน”, “อย่างน้อย” หรือเพลง “ขอเป็นเพื่อนที่ดี”
ในอัลบั้มชุดแรก พี่บิลลี่จะมีภาพลักษณ์ของความเป็นหนุ่มเซอร์ ผมยาว เพลงเป็นแนว Pop ใส ๆ ซึ่งพอมาถึงอัลบั้มชุดที่ 2 ทุกคนจะได้เห็นการพลิกภาพลักษณ์ของพี่บิลลี่ชนิดที่ว่าหน้ามือเป็นหลังมือเลยก็ว่าได้ ซึ่งจุดเปลี่ยนนั้นมาจากเพลงในอัลบั้มชุดแรกมีดนตรีที่ไม่มันพอให้คนได้โยกตาม และยังไม่ใช่แนวเพลงที่ตัวเองชื่นชอบเท่าไหร่ ในอัลบั้มชุดแรกนี้พี่บิลลี่จึงรับงานโชว์คอนเสิร์ตต่าง ๆ เพียงแค่ 8-9 ครั้งเท่านั้น! และไม่รับงานอีกเลย
หลังจากเหตุการณ์นั้นพี่บิลลี่จึงได้คุยกับผู้ใหญ่ทางค่ายเพลง และได้มีการปรึกษาหารือกัน จนในที่สุดก็ได้มีการปรับเปลี่ยนสไตล์ให้เป็นตัวของตัวเอง ที่มีแนวเท่ ร็อก จิ๊กโก๋ ถึงได้มีอัลบั้ม “บิลลี่เข้ม” ออกมา และโด่งดังไปทั่วประเทศ!
Concept การเป็นบิลลี่เข้ม จุดเริ่มต้นมาจากการที่พี่บิลลี่ต้องเข้าประชุมกับผู้ใหญ่ทางค่ายเพลงในวันที่ต้องปรึกษาหารือกันเรื่องเพลง และพี่บิลลี่ก็ได้แต่งตัวมาดเท่แนวจิ๊กโก๋และตัดผมทรงใหม่ บวกกับการใส่เเว่นตาดำ จนกระทั่ง “พี่เล็ก บุษบา” เห็นเข้าแล้วก็ทักขึ้นมาว่า “บิลลี่มันเข้มเว้ย” หลังจากนั้นก็เลยเอาคำนี้มาเป็นชื่ออัลบั้ม จนเกิดเป็นฉายาประจำตัวว่า “บิลลี่เข้ม” ตลอดมา
อัลบั้ม “บิลลี่เข้ม” ได้สร้างปรากฎการณ์ความฮิตสุด ๆ กับเพลง “เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม”, “ฝังไว้ในผืนดิน” และยังสานต่อความปังกับชุด “บิลลี่ เข้มตลอด” ที่มีเพลงชาติวัยทำงานอย่าง “ลาออก” เพลงที่เป็นเหมือนมีมชีวิตวัยทำงานยาวมาจนถึงยุคปัจจุบัน
ไม่ว่าจะปล่อยเพลงมากี่อัลบั้ม หรือไม่ว่าตัวตนของพี่บิลลี่จะเข้าไปอยู่ในบทบาทอะไรก็ตาม ชายคนนี้มักจะทำออกมาได้เป็นอย่างดีและยังได้รับการตอบรับที่ดีจากแฟน ๆ เสมอ ในวันนี้พี่บิลลี่จะกลับมาพร้อมกับเพลงที่ยังคงอยู่ในใจใครหลาย ๆ คน และพิเศษยิ่งกว่านั้น ยังมีศิลปิน 2 วัย ทั้ง 4 ท่าน ที่มีพี่บิลลี่เป็นไอดอลในเส้นทางสายดนตรี มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการถ่ายทอดเพลงฮิตอมตะตลอดกาล ติดตามได้ในรายการ #SongOfFame #เพลงคู่สยาม คืนนี้ 21.30 น. ทาง #ThaiPBS #ช่องหมายเลข3