“คิดถึงเธอแทบใจจะขาด อยากให้เธอกลับมาสักที
คิดถึงเธอทุกวินาที อยากจะพบเธอคนเดียว”
แน่นอนว่าวัยรุ่นยุคนั้นน้อยคนนักที่จะอ่านเนื้อเพลงเหล่านี้ได้ โดยไม่ใส่ทำนอง เพราะนี่คือคือหนึ่งในบทเพลงอมตะข้ามยุคข้ามสมัยมากว่า 30 ปี ที่เกิดขึ้นจากศิลปินระดับตำนานนามว่า ‘หรั่ง ร็อคเคสตร้า’ ศิลปินที่ใช้ความความรู้สึกในการนำทาง จนกลายเป็นหน้าหนึ่งในประวัติศาสตร์เพลงไทย วันนี้เราจะพาทุกคนเดินทัวร์แกลเลอรีที่เล่าเรื่องราวประวัติความเป็นมาของชายที่ชื่อ ‘หรั่ง ร็อคเคสตร้า’
มาที่แกลเลอรีห้องแรก จะพาทุกคนไปรู้จัก ‘พี่หรั่ง’ ตั้งแต่จุดเริ่มต้น ด้วยความชื่นชอบในการเล่นดนตรีมาตั้งแต่เด็ก เมื่อโตขึ้นจึงได้มีโอกาสไปเล่นตามร้านอาหารต่างๆ จนวันหนึ่งเข้าไปศึกษาที่ ‘โรงเรียนดุริยางค์ทหารเรือ’ ทำให้พี่หรั่งได้คลุกคลีกับดนตรีมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการได้เล่นเครื่องดนตรีชนิดต่างๆ หรือการเรียบเรียงเสียงประสาน จนในที่สุดก็ได้รับตำแหน่ง ‘นักร้องนำ’ ในวง ‘ซิมโฟนีออร์เคสตรา’ ของ ‘กองทัพเรือไทย’
ในช่วงปี 2526 ยุคที่เพลงป็อปกำลังครอบงำวงการเพลงไทย การที่จะหาฟังเพลงแนวร็อกในเมืองไทยเป็นเรื่องที่ยากมาก คงจะมีแต่เพลงคัฟเวอร์เท่านั้นที่ทำให้เราได้ฟังเพลงแนวร็อกได้ แต่ขณะนั้นเองก็มีชายคนหนึ่งนามว่า ‘ชัชชัย สุขขาวดี’ หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ ‘หรั่ง’ ได้ใช้ความกล้าทะลุกระแสเพลงป็อปต่างๆ รวมกลุ่มตั้งวงดนตรีแนว ‘อิเล็กโทรร็อก’ และใช้ชื่อวงว่า ‘ร็อคเคสตร้า’ ขึ้น โดยมีสมาชิกฝีมือฉกาจรวมทั้งสิ้น 7 ท่าน ได้แก่ พี่อ้อ-ภาสกร หุตวณิช (มือคีย์บอร์ด), พี่นุ-ธรรมนูญ หะยีสา (มือกลอง), พี่เปี๊ยก-กฤษฎา ตันติเวชกุล (มือคีย์บอร์ด), พี่ชัคกี้-ธัญญรัตน์ (มือกีตาร์ เจ้าของฉายา กีตาร์ขั้นเทพ), พี่เกี๊ยก-สมโชค เล้าเปี่ยมทอง (มือเบส), และพี่ฟาโรห์ ตอยยีบี (มือกีตาร์ _
แกลเลอรีห้องถัดมา ขอพูดถึงอัลบั้มแรกที่ชื่อ ‘เทคโนโลยี’ ด้วยความที่วงมีการใช้เนื้อหาที่แปลกใหม่ ดนตรีที่ล้ำสมัยอย่างดนตรีแนวอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องดนตรีจำพวก ‘ซินธิไซเซอร์’ เข้ามาอยู่ในเพลง แถมยังเติมกลิ่นร็อกเข้ามาอีก ทำให้ตอนนั้นวง ‘ร็อคเคสตร้า’ กลายเป็นที่จับตามองของวงการเพลงไทยบ้านเรา จนมีงานเดินสายทั่วประเทศ ซึ่งตอนนี้ถ้าเราได้ย้อนกลับไปฟัง มั่นใจว่าเพลงเหล่านั้นก็ยังให้ความรู้สึกที่ล้ำสมัยอยู่ ด้วยแนวของดนตรีที่ทำล้ำหน้าไปมาก
อย่างเพลงหนึ่งในอัลบั้มนี้ ที่ชื่อ ‘เงา (วิ่ง)’ ที่มีเนื้อเพลงติดหูอย่าง “วิ่ง วิ่ง วิ่ง วิ่ง วิ่ง วิ่งไป” ที่มาจากการที่พี่หรั่งเป็นนักวิ่ง และได้หนังสือเล่มโปรดที่เป็นไอเดียวิทยาศาสตร์อย่าง ‘ต่วย’ตูน’ มารวมกันจนเกิดเพลงนี้ขึ้น ซึ่งถ้าใครเคยได้ฟังก็จะพบว่าเพลงนี้สั้นมาก รีบมาก เพราะพี่หรั่งตั้งใจอยากให้คนฟังกลับมาฟังซ้ำๆ แถมเนื้อเพลงยังเข้ากับยุคสมัยนั้นที่ชอบทำอะไรรีบๆ ซึ่งคิดไปคิดมา เพลงนี้ก็ยิ่งเข้ากับยุคสมัยนี้มากกว่าด้วยซ้ำ จนถือว่าเป็นเพลงแห่งอนาคตที่แต่งเมื่อตอนปี 2527 แต่ดันใช้ได้จริงกับปี 2568 อีกด้วย
และแกลเลอรีห้องสุดท้าย เราจะขอพูดถึงเพลงระดับตำนานอย่าง ‘คิดถึง’ อัลบั้ม ‘ไวกว่าแสง’ ปี 2534 เป็นอัลบั้มที่ ‘พี่หรั่ง’ ได้แยกตัวออกมาเป็นศิลปินเดี่ยวในค่าย RS เพลงนี้ถูกแต่งขึ้นในช่วงที่พี่หรั่งทัวร์คอนเสิร์ตเยอะมาก จนบางทีก็ไม่ได้กลับบ้านเป็นอาทิตย์ ซึ่งช่วงนั้นก็เป็นช่วงเดียวกับที่ภรรยาให้กำเนิดลูกสาวอย่าง ‘เมทัล’ ขึ้นมา พี่หรั่งก็เลยแต่งเพลง ‘คิดถึง’ ให้กับภรรยาและลูกสาวนั่นเอง และด้วยตัวเพลงที่มีเนื้อหาบาดลึกกินใจ ประกอบกับการร้องที่ถ่ายทอดออกมาได้เจ็บปวดสุดๆ ก็เลยทำให้เพลงนี้เป็นหนึ่งในเพลงที่ดังระดับตำนานข้ามยุคมาจนถึงปัจจุบัน
ซึ่งวันนี้ทางรายการ Song Of Fame เพลงคู่สยาม ขอพาบทเพลงของ ‘หรั่ง ร็อคเคสตร้า’ ให้ล้ำหน้าล้ำยุคไปทุกๆ สมัยด้วยกัน โดยหยิบ ‘เงา (วิ่ง)’, ‘คิดถึง’, ‘รักเธอจริงจริง’, ‘รักเธอประเทศไทย’, และ ‘โลง’ มาเรียบเรียงใหม่ให้ล้ำหน้ากว่าเดิม โดย ‘นอ นรเทพ’ ซึ่งบทเพลงเหล่านี้จะถูกถ่ายทอดผ่าน ‘โดม ปกรณ์ ลัม’, ‘เป้ MVL’ และ ‘หมู มูซู’ ร่วมกับ ‘น้องอู๋’, ‘น้องโมเดล’ และ ‘น้องวา’
มาร่วมสร้างความทรงจำในแกลเลอรีนี้ด้วยกัน วันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 21.30 น. ทางช่อง Thai PBS HD หมายเลข 3
#SongOfFameเพลงคู่สยาม #หรั่งร็อคเคสตร้า #ThaiPBS #ช่องหมายเลข3